พูดคุยประสาคนกันเอง วันพุธที่ 11 กันยายน2567
อนาคตของคุณกำลังถูกทำลายด้วย 4 นิสัยนี้
.
อุปสรรคที่คอยขัดขวางการพัฒนาของคุณ ฉุดรั้งความสำเร็จ
และไม่ยอมให้คุณก้าวหน้าไปนั้น คือ "ตัวคุณเอง"
.
"เป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยากมาก"
เมื่อคุณอยากพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เก่งขึ้น มีมาตรฐานสูงขึ้น
คุณต้องลงมือทำ + ขวนขวายหาความรู้
ซึ่งคนส่วนใหญ่ได้แต่คิดในหัวเพียงอย่างเดียว
.
ลองมองดูชีวิตประจำวันของคุณ นิสัยของคุณ แล้วคุณจะพบว่า
คุณมีนิสัยหลายอย่างที่ทำให้คุณไม่ยอมลงมือทำ
และทำให้คุณหยุดอยู่กับที่
ซึ่งคุณเองรู้อยู่แก่ใจดีว่า "นิสัยเหล่านี้ไม่ดี"
.
และนี่คือ 4 นิสัยที่ขัดขวางความสำเร็จ
และเป็นอุปสรรคไม่ให้ชีวิตของคุณก้าวหน้า พร้อมด้วยวิธีแก้
.
1.นิสัยขี้กลัว
.
ความกลัวเป็นนิสัยอย่างหนึ่งที่ทำให้คุณไม่กล้าลงมือทำ
และอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
.
ความกลัวว่าจะ "ล้มเหลว" และข้ออ้าง
จะค่อยๆ ถาโถมคุณจนคุณไม่ได้เริ่มลงมือทำ
.SELF SABOTAGE
ดังนั้นการจะชนะความกลัวได้นั้น คุณต้อง
"เริ่มลงทำมือ ลองล้มเหลวตั้งแต่อายุยังน้อย แม้อายุจะเยอะ"
.
แจ็ค หม่า เคยพูดไว้ว่า
"ความสำเร็จไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน
ถ้าคุณไม่คิดที่จะลงมือทำ"
เพราะเมื่อคุณมัวแต่คิดว่า "จะเริ่ม"
คุณก็จะเริ่มหาข้ออ้างต่าง ๆ ขึ้นมาด้วย
เช่น ไม่มีเงินทุนบ้างละ, ไม่มีสินค้าบ้างละ,
ต้องหาพื้นที่เปิดร้านก่อน
.
เมื่อคุณเริ่มทำตั้งแต่อายุยังน้อย
ถึงจะผิดพลาดบ้าง ถึงจะขาดทุนบ้าง
แต่มันทำให้คุณมีภูมิคุ้มกันต่อความล้มเหลว
และเอาชนะความกลัวได้ในที่สุด
.
.
2\. นิสัยคิดลบ
.
หลายคนเมื่อจะเริ่มลงมือทำสิ่งที่ตัวเองวางแผนไว้
นอกจากความกลัวที่ไม่กล้าลงมือทำแล้ว
ยังมีความคิดในแง่ลบ ที่ตามหลอกหลอนตัวคุณด้วย
.
นอกจากนี้ เมื่อคุณมีความคิดในแง่ลบแล้ว
ทุกเรื่องราว ทุกความคิดเห็นจากคนรอบข้าง
จะเข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจของคุณ เช่น
.
เมื่อคุณบอกคนอื่นว่า
คุณอยากลงทุนในตลาดคริปโตฯ
อาจมีความคิดเห็นว่า "อย่าลงเลย! มันเสี่ยงเกินไป"
.
หากคุณเป็นคนที่มีนิสัยคิดลบแล้ว
แค่ประโยคที่ว่า "อย่าลงเลย มันเสี่ยงเกินไป"
ก็ทำให้คุณไม่กล้าเริ่มลงทุนในตลาดคริปโตฯ แล้ว
.
ทั้งที่คนที่บอกคุณ
อาจจะไม่เคยลงทุนในคริปโตฯ มาก่อน
.
เมื่อคุณเริ่มต้นทำธุรกิจ หรือเริ่มต้นลงทุน
สิ่งแรกที่คุณควรทำเมื่อมีสิ่งที่ไม่รู้
คือ การสอบถามผู้มีประสบการณ์ จนรู้และเข้าใจ
.
"จงสงสัยและวิเคราะห์ความคิดเห็นที่ได้มาให้มาก"
.
3.นิสัยขี้เกียจ
.
ผมเชื่อว่า นิสัยนี้คงเป็นนิสัยที่ใครหลายคนเป็นอยู่
รวมถึงตัวผมด้วย
.
ความขี้เกียจนั้นมาพร้อมกับ
ความสบายในพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง
.
ยิ่งคุณอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยของตัวเองนานเท่าไหร่
คุณยิ่งพัฒนาความสามารถของคุณได้ช้าลงเท่านั้น
.
ในปี 2020 ผมเริ่มหารายได้ด้วยการเขียนบทความกับ
Trueid ตอนนั้นทางเว็บ Trueid
เปิดโอกาสให้คนทั่วไปเขียนบทความเพื่อหารายได้
.
ถามว่า ตอนนั้นผมเขียนบทความเป็นมั้ย?
ตอบเลยว่า "ไม่ได้เรื่องเลย"
.
แต่สิ่งที่ทำให้ผมทำลายนิสัยขี้เกียจ
และเริ่มเขียนบทความคือ "ความโลภ" (ที่มีต่อเงิน)
.
"ผมอยากได้เงินเอาไปซื้อหนังสือ"
.
นั้นคงเป็นความต้องการของผมตอนอายุ 19
ที่ชอบหนังสือ และอยากมีหนังสือเต็มชั้นหนังสือ
.
ความโลภที่มีต่อเงินของผมในตอนนั้น
ทำให้ผมเขียนบทความเก่งขึ้น
และต่อยอดให้ผมศึกษาหลายเรื่อง ในตอนนี้
.
ความโลภไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี ตามที่ห้องเรียนเคยสอน
แต่ความโลภนั้น จะทำให้คุณมี "ความอยาก"
จนเริ่มพัฒนาตัวเอง สร้างธุรกิจ หารายได้ หรือเริ่มลงทุน
.
ดังนั้น "จงมีความโลภในเรื่องที่ตัวเองต้องการ"
เพราะมันเป็นแรงผลักดันให้คุณเก่งขึ้น
4.นิสัยทะนงตน
.
คนที่ทะนงตนนั้น เมื่อมีคนถามในสิ่งที่ "พวกเขาไม่รู้"
พวกเขาจะทำเหมือนว่า "พวกเขารู้"
.
ทั้งที่จริงแล้ว การตอบว่า รู้ทั้งที่ไม่รู้
การโกหกแทนที่จะพูดความจริงนั้น
มีแต่ทำให้ทุกอย่างแย่ลง
ทั้งคุณและคนถามจะมีแต่เสียกับเสีย
.
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีนิสัยทะนงตน
คุณจะหลอกตัวเองว่า
สิ่งที่คุณไม่รู้เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น
.
"ไม่จำเป็นต้องรู้ ไม่จำเป็นต้องศึกษา"
และนั้นแหละ คือ ตัวฉุดรั้งการพัฒนาตัวเอง
.
"เมื่อมีสิ่งที่คุณไม่รู้ จงตอบว่าไม่รู้ และเริ่มศึกษาอย่างจริงจัง"
.
.
เขียนโดย #วิชานอกห้อง
| ยกระดับตัวคุณ เพื่อเป้าหมายที่สำเร็จ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น